หยุดการกลั่นแกล้งตั้งแต่ในบ้าน ปลูกฝังน้ำใจและความเข้าใจให้ลูกตั้งแต่วัยเด็ก
วันศุกร์ที่สามของเดือนมิถุนายนในทุกปี คือ “วันหยุดการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์” หรือ Stop Cyberbullying Day ซึ่งเป็นวันที่ทั่วโลกร่วมกันรณรงค์ให้สังคมหยุดพฤติกรรมล่วงละเมิดทางคำพูดและพฤติกรรมในสื่อออนไลน์ แต่แท้จริงแล้ว “การกลั่นแกล้ง” ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในโลกออนไลน์เท่านั้น
การกลั่นแกล้งสามารถเริ่มขึ้นได้ในบ้าน ผ่านคำพูดล้อเล่นที่เกินเลย การเปรียบเทียบพี่น้อง การตำหนิที่รุนแรง หรือแม้แต่การขาดโอกาสให้เด็กเรียนรู้เรื่องความเห็นอกเห็นใจและเคารพผู้อื่น หากไม่ถูกจัดการหรืออธิบายอย่างเหมาะสม พฤติกรรมเหล่านี้อาจติดตัวลูกไปสู่โรงเรียน หรือโลกออนไลน์โดยไม่รู้ตัว
เข้าใจพฤติกรรมกลั่นแกล้งในเด็ก
เด็กเล็กอาจยังแยกแยะไม่ได้ว่า “การแกล้ง” กับ “การเล่น” ต่างกันอย่างไร เช่น การล้อชื่อเพื่อนแรงๆ ดึงของเล่น หรือผลักเพื่อนเบาๆ แล้วหัวเราะ พฤติกรรมเช่นนี้อาจเป็นเรื่องสนุกในมุมของเขา แต่กลับทำร้ายจิตใจเพื่อนโดยไม่ตั้งใจ
คุณพ่อคุณแม่จึงมีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังสิ่งต่อไปนี้ตั้งแต่ในบ้าน:
1. สอนให้ลูกเข้าใจคำว่า "เจ็บ" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ไม่ใช่แค่การห้ามตี หรือทำร้ายร่างกาย แต่รวมถึงคำพูดที่อาจบั่นทอนใจ เช่น การล้อเลียนหน้าตา น้ำเสียง หรือท่าทางของผู้อื่น สอนให้ลูกสังเกตสีหน้าและความรู้สึกของคนรอบตัว และตั้งคำถามว่า “ถ้าเป็นหนูโดนแบบนี้จะรู้สึกอย่างไรลูก”
2. สังเกตสัญญาณที่สื่อถึงการถูกกลั่นแกล้ง หรือการเป็นผู้กลั่นแกล้งของลูก
คุณพ่อคุณแม่จะต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมถึงสัญญาณของการถูกกลั่นแกล้งจากลูก เช่น ไม่อยากไปโรงเรียน หลีกเลี่ยงการพูดคุยถึงเรื่องเพื่อนหรือเรื่องที่โรงเรียน เงียบผิดปกติหรือซึมเศร้า เป็นต้น
นอกจากนี้ยังต้องสังเกตถึงสัญญาณที่แสดงถึงการเป็นผู้กลั่นแกล้งของลูก เช่น ไม่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่อดทน แสดงออกถึงการแกล้ง ล้อเลียน หรือดูถูกคนอื่นที่แตกต่าง ทำร้ายสัตว์ เป็นต้น
3. หยุดการเปรียบเทียบหรือพูดจาด้อยค่าในบ้าน
การเปรียบเทียบ เช่น “ดูพี่สิ เรียนเก่งกว่าเยอะ” หรือ “ทำไมถึงทำไม่ได้เหมือนน้อง” อาจทำให้เด็กรู้สึกด้อยค่า และกลายเป็นความโกรธสะสม พฤติกรรมนี้สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงเมื่อลูกพยายามเอาชนะ หรือควบคุมผู้อื่นในที่อื่น
4. เป็นแบบอย่างของความเคารพ
เด็กเรียนรู้จากการสังเกต พ่อแม่ที่พูดจาสุภาพ ไม่นินทาผู้อื่น ไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรง จะเป็นต้นแบบให้เด็กใช้คำพูดและพฤติกรรมอย่างระมัดระวัง ทั้งในชีวิตจริงและเมื่อโตขึ้นเข้าสู่โลกออนไลน์
5. เปิดใจพูดคุยเรื่องข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการกลั่นแกล้ง
หากมีข่าวเกี่ยวกับเด็กถูกรังแก หรือลูกกลับมาจากโรงเรียนพร้อมเล่าเรื่องเพื่อนโดนแกล้ง นั่นคือโอกาสดีในการสอนและชวนคุยอย่างใจเย็น อย่าด่วนตำหนิ แต่ตั้งคำถามเพื่อให้เขาเรียนรู้การรับมือหรือช่วยเหลือผู้อื่น