วิธีจัดการความเครียดในเด็ก เข้าใจลูก พร้อมช่วยให้ผ่านพ้นอย่างมั่นคง

ในความเป็นจริง เด็กก็สามารถเกิดความเครียดได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการเรียน ความคาดหวังจากคนรอบข้าง ความไม่เข้าใจจากเพื่อน หรือการเปลี่ยนแปลงในชีวิต การเข้าใจและรู้วิธีจัดการความเครียดในเด็กตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพจิตดีและมีทักษะในการจัดการอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม

สัญญาณที่บ่งบอกว่าเด็กอาจกำลังเครียด

1.      มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น เงียบลง หงุดหงิดง่าย หรือร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล

2.      เบื่ออาหาร หรือกินมากผิดปกติ

3.      นอนไม่หลับ ฝันร้าย หรือไม่อยากตื่นไปโรงเรียน

4.      ไม่อยากพูดคุยกับใคร เข้ากับเพื่อนไม่ได้

5.      แสดงพฤติกรรมถดถอย เช่น กลับไปพูดติดอ้อน พฤติกรรมเหมือนเด็กเล็ก

วิธีช่วยลูกจัดการกับความเครียด

1.      หมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกอย่างใกล้ชิด

เด็กมักแสดงความเครียดผ่านพฤติกรรมมากกว่าคำพูด หากลูกมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ซึม เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ หรือไม่อยากไปโรงเรียน สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าลูกกำลังเผชิญความเครียด คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยเหลือลูกได้ โดยการเข้าไปพูดคุยหรือรับฟังความคิดเห็น พยายามแสดงความเป็นห่วงและเข้าใจลูก แล้วพวกเขาก็จะรับรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจเขามากขึ้น

2.      ไม่กดดันลูกในเรื่องการเรียนหรือความสำเร็จ

แม้ว่าการเรียนเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากพ่อแม่ให้ความสำคัญกับผลการเรียนมากเกินไป เช่น คาดหวังให้ลูกได้เกรดดีหรือสอบติดอันดับ อาจทำให้ลูกเครียดโดยไม่รู้ตัว ควรเปลี่ยนวิธีคิดจาก "เรียนเพื่อแข่งขัน" เป็น "เรียนเพื่อเข้าใจและพัฒนา" ให้กำลังใจเมื่อลูกพยายาม ไม่ว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหน และยอมรับในศักยภาพเฉพาะตัวของลูก

3.      ไม่ดุ ไม่ตำหนิ ไม่ตี

เมื่อเด็กทำผิดหรือควบคุมอารมณ์ไม่ได้ การดุด่า เสียดสี หรือทำโทษรุนแรง อาจยิ่งเพิ่มความเครียด และทำให้ลูกรู้สึกว่าตนเองไม่เป็นที่ยอมรับ การพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ถามไถ่อย่างใส่ใจ และให้โอกาสเด็กได้อธิบาย จะช่วยให้เขาเรียนรู้และกล้าเปิดใจมากขึ้น การลงโทษควรอยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัย โดยเน้นสื่อสารมากกว่าบังคับ เช่น “แม่เห็นว่าหนูโกรธ แต่เราใช้วิธีอื่นได้ไหมลูก แทนที่จะตะโกนหรือปาของเล่น”

4.      เข้าใจ และมีเวลาให้ลูกอย่างแท้จริง

ในวันที่เด็กมีความเครียด การที่คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่ด้วย มีค่ามากกว่าการซื้อของเล่นหรือหาคำตอบให้ทุกอย่าง การทำกิจกรรม เช่น พูดคุยก่อนนอน เล่นด้วยกัน หรือแค่ฟังอย่างตั้งใจโดยไม่จับผิด จะช่วยให้ลูกเปิดใจ รู้สึกปลอดภัยที่จะพูดถึงความรู้สึก หรือระบายความในใจออกมาได้