“ลูกพูดช้า” เรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม
เด็กที่ “พูดช้า” หมายถึงเด็กที่พัฒนาทักษะด้านภาษาพูดช้ากว่าเกณฑ์เฉลี่ยของช่วงวัย ความผิดปกตินี้อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งทางร่างกาย พฤติกรรม หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว
“ลูกพูดช้า” เรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม
เด็กที่ “พูดช้า” หมายถึงเด็กที่พัฒนาทักษะด้านภาษาพูดช้ากว่าเกณฑ์เฉลี่ยของช่วงวัย ความผิดปกตินี้อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งทางร่างกาย พฤติกรรม หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว
สาเหตุของการพูดช้าในเด็ก
พัฒนาการของแต่ละคนไม่เท่ากัน
เด็กบางคนอาจมีพัฒนาการพูดช้ากว่าเพื่อนเล็กน้อย แต่ไม่มีปัญหาอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
การได้ยินผิดปกติ
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ทำให้ไม่สามารถเรียนรู้ภาษาและการพูดจากการได้ยินเสียงและคำพูดปกติได้
ขาดการกระตุ้นทางภาษา
หากเด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยมีการพูดคุย มีคนที่คอยพูดแทนให้ตามความต้องการ หรือได้รับการเลี้ยงดูด้วยหน้าจอมากเกินไป อาจทำให้ขาดการฝึกฝนการพูด
มีปัญหาด้านพัฒนาการหรือพฤติกรรม
เช่น เด็กที่อยู่ในกลุ่มออทิสติก จะมีพัฒนาการด้านภาษาช้า ร่วมกับความบกพร่องในการเข้าสังคม การสื่อความหมาย มีปัญหาพฤติกรรม และมีความเข้าใจที่ต่างจากเด็กทั่วไป
สัญญาณที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกต
ช่วงอายุ 6-10 เดือน ไม่ส่งสัญญาณการพูด ไม่หันมาตามเสียง ไม่เลียนแบบ
ช่วงอายุ 15 เดือน ไม่สามารถทำตาม ไม่เข้าใจคำสั่งง่ายๆ ยังไม่พูดคำแรก และไม่มีภาษาทางกาย
ช่วงอายุ 1-2 ปี ไม่เริ่มการสื่อสารและไม่เข้าใจคำถามหรืออาจจะพูดไม่หยุด แต่ไม่สื่อสารในเรื่องเดียวกัน
ช่วงอายุ 3 ปี ไม่บอกความต้องการ ไม่เข้าใจและไม่เคยใช้ประโยคคำถาม หรืออาจจะพูดเป็นภาษาสคริปต์ ที่ไม่ใช่ภาษาของเด็กวัยเดียวกัน
หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรพาไปปรึกษากุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก เพื่อประเมินอย่างละเอียด
วิธีส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของลูก
1. พูดคุยกับลูกเป็นประจำ ให้เวลากับลูกมากขึ้น
แม้ลูกจะยังไม่พูดตอบ แต่การได้ยินคำพูดบ่อยๆ จะช่วยให้สมองจดจำและเรียนรู้ รวมถึงการมีช่วงเวลาเล่น พูดคุย ทำกิจกรรมร่วมกัน จะช่วยกระตุ้นให้เด็กอยากสื่อสารมากขึ้น
2. อ่านนิทาน เล่นเพลงเด็ก และเล่านิทาน
การใช้ภาษาที่มีจังหวะ ทำนอง และคำซ้ำ ช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านภาษาได้ดี
3. หลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอ
โทรศัพท์และแท็บเล็ตไม่สามารถทดแทนการสื่อสารสองทางระหว่างคนกับคนได้ ควรลดเวลาอยู่หน้าจอลง
4. พูดช้า ชัด และใช้คำง่าย
เพื่อให้ลูกเข้าใจ และสามารถลอกเลียนเสียงหรือคำพูดได้ง่ายขึ้น
5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากต้องการคำแนะนำเรื่องพัฒนาการของลูก สามารถไปพบกุมารแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการตามความเหมาะสม หรืออาจพบผู้เชี่ยวชาญ เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักตรวจการได้ยินหรือนักแก้ไขการพูด เป็นต้น
ด้วยความห่วงใย จาก Kiddy Balm