คุณพ่อคุณแม่สามารถมีบทบาทสำคัญในการช่วยรีเฟรชลูกทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยวิธีง่ายๆ ที่ไม่ต้องรอถึงวันหยุดยาว แค่ปรับมุมมองและสร้างบรรยากาศที่ช่วยให้ลูกได้พัก พร้อมกลับมามีพลังอีกครั้ง
1. สังเกตพฤติกรรมของลูกอยู่เสมอ
เด็กอาจไม่ได้บ่นว่าเหนื่อยโดยตรง แต่จะแสดงออกผ่านพฤติกรรม เช่น อารมณ์แปรปรวนง่าย งอแงง่าย หงุดหงิดบ่อย เบื่ออาหาร มีท่าทีเบื่อ ไม่อยากทำอะไร แม้ในกิจกรรมที่เคยชอบ นอนหลับไม่สนิท ขาดสมาธิในการเรียน หรือไม่อยากไปโรงเรียน หากพบพฤติกรรมเหล่านี้บ่อยในช่วงกลางเทอม แสดงว่าเด็กอาจต้องการการพักผ่อนและการดูแลอย่างใกล้ชิด
2. ช่วยลูกจัดตารางเรียนและพักให้สมดุล
แม้จะมีการบ้านหรือเตรียมสอบ คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยจัดสรรเวลาให้ลูกได้พักจริงๆ ในแต่ละวัน เช่น เว้นช่วงพัก 10–15 นาที หลังทำการบ้าน ให้มีช่วงเวลาที่ไม่มีหน้าจอ เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลาย
หรือมีกิจกรรมเบาๆ เช่น วาดภาพ ฟังเพลง หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง การพักแบบมีคุณภาพช่วยให้เด็กกลับมาเรียนรู้ได้ดีขึ้นกว่าการฝืนเรียนต่อเนื่องโดยไม่มีจังหวะหยุด
3. เสริมพลังด้วยอาหารและการนอนที่ดี
สุขภาพกายมีผลต่อสุขภาพใจอย่างมาก การดูแลเรื่องพื้นฐานให้ดี จะช่วยให้ลูกมีแรงพร้อมลุยเรียนในช่วงครึ่งหลังของเทอม ให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ โดยเน้นโปรตีนและผักผลไม้ ควรจัดอาหารหลักให้เด็กบริโภคให้ครบทั้ง 3 มื้อ ไม่ควรเว้นมื้อใดมื้อหนึ่ง โดยเฉพาะมื้อเช้า หลีกเลี่ยงขนมหวานจัดและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ส่งเสริมให้ตื่นและเข้านอน นอนให้เพียงพอ ไม่ใช้หน้าจอก่อนนอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
4. ให้พื้นที่ในการพูดคุยระบายความรู้สึก
บางครั้งการที่เด็กเหนื่อยหรือท้อ ไม่ใช่แค่เพราะเรียนเยอะ แต่เพราะรู้สึกว่า “ไม่มีใครเข้าใจ” การเปิดใจรับฟังจึงสำคัญมาก คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนลูกคุยหลังเลิกเรียน เช่น “วันนี้เป็นยังไงบ้าง” หากลูกรู้สึกเครียด อย่าเพิ่งรีบสอนหรือแก้ปัญหา แต่ให้ลูกเล่าอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าพ่อแม่อยู่เคียงข้าง พร้อมช่วยรับฟัง พูดคุย ให้คำปรึกษา และหาทางออกไปด้วยกัน
5. สร้างแรงบันดาลใจให้กับการเรียนครึ่งหลังของเทอม
บางครั้งการที่เด็กหมดแรง อาจเพราะไม่เห็นเป้าหมายที่น่าสนใจ พ่อแม่สามารถให้กำลังใจ ไม่ต่อว่า และช่วยเติมแรงบันดาลใจเล็กๆ ด้วยการให้รางวัลเล็กๆ เช่น เลือกเมนูอาหารเย็น หรือได้เวลาเล่นเพิ่ม