การรู้เท่าทันโรคติดต่อที่พบบ่อยในเด็ก และเรียนรู้วิธีป้องกันอย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกน้อยให้ปลอดภัย แข็งแรง และลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยซ้ำซ้อนในช่วงเปิดเทอม
3 โรคติดต่อในเด็กที่พบบ่อยในโรงเรียน
1. ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก (Influenza)
เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ มีทั้งอาการที่ไม่หนักมาก หรืออาการหนักจนไวรัสลงปอดได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของร่างกายและการได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
โดยเชื้อไวรัสทั้งสายพันธุ์ A B และ C จะเติบโตและแพร่กระจายได้เร็วในสภาพอากาศเย็นและชื้น โดยแฝงมากับสารคัดหลั่ง เช่น เสมหะ น้ำมูก ละอองน้ำลาย และผิวหนัง
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด
สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในบริเวณคนพลุกพล่าน
ล้างมือบ่อยๆ
ไม่นำมือเข้าปาก จมูก หรือขยี้ตา
ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
2. โรคติดเชื้ออาร์เอสวี (RSV)
โรค RSV เป็นไวรัสชนิดมีเปลือกหุ้ม ชื่อเต็มว่า Respiratory Syncytial Virus มี 2 สายพันธุ์ คือ RSV-A และ RSV-B เป็นไวรัสก่อการติดเชื้อทางเดินหายใจของเด็กทั่วโลก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และมีการระบาดช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฎาคม- กันยายน แต่สามารถพบโรคนี้ในเด็กได้ตลอดทั้งปี
การป้องกันเชื้อไวรัส RVS ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อ RSV จึงควรป้องกันตัวเอง ดังนี้
3. โรคไข้เลือดออกในเด็ก (dengue fever)
เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค มักพบในประเทศเขตร้อนและระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี อาการแสดงของโรคมีตั้งแต่ ไม่มีอาการผิดปกติไปจนถึงมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน และรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ไข้เลือดออกยังเป็นโรคที่คาดเดาได้ยากว่าจะอาการรุนแรงหรือไม่
การป้องกันโรคไข้เลือดออก
ป้องกันไม่ให้ยุงกัด เช่น ทายากันยุง สวมเสื้อแขนยาว หรือทายาหม่องสูตรอ่อนโยนเนื่องจากกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยที่มีในยาหม่องจะช่วยไล่ยุงได้
กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยเฉพาะบริเวณน้ำนิ่งและน้ำขัง
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก สามารถฉีดได้ทั้งผู้ที่เคยและไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน