รู้ไหม? “เสียงรบกวน” ตัวร้ายเงียบที่บั่นทอนพัฒนาการลูก
ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากทีวี โทรศัพท์ หรือแม้แต่เสียงจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่สำหรับเด็กเล็ก โดยเฉพาะวัยก่อนเข้าเรียน ที่มีระบบประสาทการได้ยินที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ เสียงดังหรือเสียงรบกวนรอบตัวอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการด้านภาษา การพูด และพฤติกรรมโดยรวม
เสียงรบกวนส่งผลกับเด็กอย่างไร?
· การได้ยินลดลงโดยไม่รู้ตัว สมาธิสั้น เด็กจะจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้ยาก เมื่อมีเสียงอื่นแทรกเข้ามา
· ส่งผลต่อการนอนหลับ นอนไม่สนิท เสียงรบกวนในช่วงเวลานอนจะส่งผลต่อคุณภาพการนอน ทำให้เด็กพักผ่อนไม่เพียงพอ หงุดหงิดง่าย
· พัฒนาการล่าช้า โดยเฉพาะด้านภาษา หากเด็กต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังหรือมีการพูดคุยที่สับสน จะทำให้เรียนรู้คำศัพท์ได้ช้า พูดช้า และไม่กล้าโต้ตอบ
· ความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังเกินไปอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว หรือแยกตัวเงียบๆ
แล้วควรจัดการอย่างไรดี?
· จัดมุมเงียบในบ้าน ให้ลูกมีพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่มีเสียงรบกวน สำหรับอ่านหนังสือ เล่นเงียบๆ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ
· เป็นแบบอย่างที่ดี พ่อแม่ที่ใช้เสียงนุ่มนวล ไม่ตะโกนหรือใช้เสียงรุนแรง จะช่วยให้ลูกซึมซับพฤติกรรมที่ดีตามไปด้วย
· หลีกเลี่ยงการพาเด็กเข้าใกล้แหล่งเสียงดัง เช่น งานก่อสร้าง หรืองานคอนเสิร์ต
· ปิดเสียงที่ไม่จำเป็น ไม่ควรเปิดทีวีหรือเสียงเพลงดังเกินไปในบ้าน
· หมั่นสังเกตพฤติกรรมการได้ยินของเด็ก หากตอบสนองช้าหรือพูดไม่ชัด ควรปรึกษาแพทย์
เสียงคือสิ่งที่อยู่รอบตัวเราและเข้าถึงลูกได้ตลอดเวลา หากเราไม่ใส่ใจ เสียงเล็กๆ ที่ดูไม่น่ามีพิษภัยอาจกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อพัฒนาการของเด็กก็เป็นได้ ลองเริ่มจากปรับสิ่งแวดล้อมในบ้าน เพื่อให้ลูกน้อยได้เติบโตอย่างเหมาะสม
ด้วยความห่วงใย จาก Kiddy Balm